วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

บริจาคเลือดลดอาการเสี่ยงกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน

บริจาคเลือดลดอาการเสี่ยงกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน

คุณรู้หรือไม่? การบริจาคเลือดลดอาการเสี่ยงกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน

88% คือจำนวนผู้ป่วยที่เป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน เนื่องจากโรคนี้มีผลเกี่ยวเนื่องกับปริมาณธาตุเหล็กที่สะสมในร่างกาย ธาตุเหล็กที่สูงจะส่งผลต่อไขมันทำปฏิกิริยากับออกซิเจน จนหลอดเลือดตีบ การบริจาคเลือดจะลดความเสี่ยงของการเป็นโรคนี้ได้

บริจาคเลือดลดอาการเสี่ยงกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน 
การบริจาคเลือดช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือผู้อื่นทางอ้อมอีกด้วย ในเลือดของคนเราประกอบด้วยพลาสมา (น้ำเหลือง) และเม็ดเลือดแดง 8% ของน้ำหนักตัว หรือประมาณ 18 แก้วน้ำ  ในผู้ชายจะเท่ากับ 4-6 ลิตร ส่วนผู้หญิงจะเท่ากับ 4-5 ลิตร โดยมีไขกระดูกทำหน้าที่สร้างเม็ดเลือด ได้แก่ เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด ซึ่งแต่ละชนิดจะมีอายุขัยไม่เท่ากัน เมื่อหมดอายุขัยเม็ดเลือดจะถูกทำลายและขับถ่ายออกมาในรูปแบบของเหงื่อ ปัสสาวะ และอุจจาระ และไขกระดูก ก็จะทำการผลิตเลือดชุดใหม่เข้ามาแทน แท้จริงแล้วร่างกายคนเราต้องการเลือดเพียง 16 แก้วน้ำ ส่วนที่เหลือคือส่วนสำรอง การบริจาคเลือดประมาณ 350-450 มิลลิลิตร จึงไม่เป็นอันตรายใดๆ แถมยังเร่งให้ร่ายกายสร้างเลือดใหม่ซึ่งแข็งแรงและมีประสิทธิภาพมากกว่า กระตุ้นการทำงานของไขกระดูก และยังเป็นการตรวจสุขภาพทางอ้อม หากผู้บริจาคมีความผิดปกติในเลือดเมื่อใด ทางสภากาชาดจะแจ้งให้ผู้บริจาคทราบทันที

บริจาคเลือดลดอาการเสี่ยงกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน

วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ผลไม้ 7 ชนิดที่ผู้หญิงควรรับประทาน

ผลไม้ 7 ชนิดที่ผู้หญิงควรรับประทาน (เป็นประจำ)

ผลไม้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายทำให้ร่างกายเจริญเติบโตและได้รับสาร วิตามิน อย่างครบถ้วน แต่สิ่งที่ผู้หญิงควรรู้ก็คือกินผลไม้อะไรถึงจะมีผลโดยตรงต่อสุขภาพผู้หญิง


ลูกพรุน เป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณเป็นยาระบาย (ไฟเบอร์) มีไขมันต่ำ แคลอรี่น้อย ธาตุเหล็กสูง และยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุ    หลายชนิด เช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3  วิตามินซี แคลเซียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัสและสังกะสี เมื่อกินเป็นประทำจะทำให้ ผิวใสมีเลือดฝาด บำรุงเลือด ต้านโรงมะเร็ง
    

         ถั่ว เป็นพืชที่อุดมไปด้วยโปรตีน เหล็กและวิตามินเอ บี อี เค แคลเซียม เหล็ก 
ในการวิจัยพบว่าถั่วยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย ไฟเบอร์ ไขมัน โคลีน 
กรดไขมันที่ไม่อิ่มตัว เมธิโอนีน เมื่อกินเป็นประจำจะช่วยลดโคเลสเตอรอล 
ช่วยป้องกันหลอดเลือดตีบและโรคหัวใจ


       บร็อกโคลี่ เป็นพืชที่อุดมไปด้วยเบต้า แคโรทีน มีวิตามินเอ ซี 
และซีลีเนียม ถ้ากินเป็นประจำจะช่วยต้านมะเร็ง ช่วยชะลอผิวพรรณไม่ให้เหียวย่นซึ่งทำให้ดูอ่อนกว่าวัย ช่วยลดอาการเสี่ยงต่อการเกิดไขข้ออักเสบ ต้อกระจก เบา หวาน และโรคหัวใจ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันร่างกาย ลดระดับคลอเลสเตอรอล 
และความดันโลหิตสูง




       กล้วย เป็นแหล่งสารอาหารในกลุ่มคาร์โบไฮเดรต มีวิตามินบี 6 โพแทสเซียม และเบต้าแคโรทีน ถ้ากินเป็นประจำจะช่วยในการสร้างสารสื่อประสาทช่วยให้ตื่นตัว สดชื่น หลับสะบาย และที่สำคัญช่วยควบคุมความอยากอาหาร


     ฝรั่ง เป็นผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามันเอ บี1 บี2 ซี มีแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งมีมากกว่ามะนาว 4 เท่า แล้วยังมีกรดนิโคตินิก สารเพคตินและแทนนิน ถ้ากินเป็นประจำจะช่วยต้านโรงหวัด บำรุงเหงือนและฟัน ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยให้ถ่ายสะบาย แก้ท้องผูก บรรเทาอาการท้องร่วง ช่วยสมานแผล บรรเทาอาการเจ็บคอ ช่วยระงับกลิ่นปาก


    แอปเปิ้ล อุดมไปด้วยวิตามินเอ บี1 บี2 บี6 ซี ไบโอติน กรดโฟลิก กรดแพนโทเธอนิค เกลือแร่ คลอไรด์ เหล็ก ทองแดง แมกานีส แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม ซิลิคอน แล้วยังมีกรดมาลิคและกรดทาร์ทาริก แอปเปิ้ลจัดเป็นผลไม้ ที่ช่วยควบคุมน้ำหนักได้ดีเลยเดียว ถ้ากินเป็นประจำจะช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ช่วยลดระดับน้ำตาล ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด ป้องกันโรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง

    ส้ม เป็นผลไม้ที่มีรสหวานอมเปรี้ยว เป็นแหล่งรวม วิตามินและเกลือแร่ เช่น วิตามินเอ ซี ดี และแคลเซียม มีเส้นใยอาหารในธรรมชาติ จึงช่วยในเรื่องขับถ่ายได้ดี ถ้ากินเป็นประจำจะช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล ผิวเกลี้ยงเกลา และสดชื่น และยังช่วยลดการเกิดริ้วรอย

ผลไม้ 7 ชนิดที่ผู้หญิงควรรับประทาน
ข้อมูลจาก http://classified69.wordpress.com
ผลไม้ 7 ชนิดที่ผู้หญิงควรรับประทาน

วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ลดไข้ด้วยแอปเปิ้ล


ลดไข้ด้วยแอปเปิ้ล
บางคนพอร่างกายอ่อนแอ ก็เป็นไข้ ปวดหัว ตัวร้อน ทว่าป่วยอย่างนี้บ่อยๆ แล้วจะต้องกินยาเรื่อยๆ คงไม่ดีนัก อีกทั้งคนกินยายากก็ยิ่งลำบากใจ วันนี้ 'มุมสุขภาพ' ภูมิใจแนะนำผลไม้ชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณลดไข้ได้ นั่นคือ "แอปเปิ้ล"

ลดไข้ด้วยแอปเปิ้ล

ในแอปเปิ้ล อุดมด้วยสารอาหารมากมาย ทั้งวิตามินบี1 บี2 บี6 โพแทสเซียม กำมะถัน เหล็ก และแมกนีเซียม ช่วยคลายเครียด ล้างพิษในไตและตับ วิตามินซี เบต้าแคโรทีน ไฟโตเคมิคอลเควอเซติน กรดมาลิก และเส้นใยแพ็กติน ให้สรรพคุณช่วยย่อย ล้างกระเพาะและลำไส้ ที่สำคัญน้ำซึ่งสกัดจากแอปเปิ้ล ดื่มแล้วช่วยลดไข้ได้

         เพื่อความอร่อย และเพิ่มคุณค่า ยังสามารถผสมน้ำแอปเปิ้ลรวมกับน้ำที่สกัดจากแครอต เป็นการเติมสรรพคุณกระตุ้นภูมิคุ้มกันอีกด้วย

หากต้องการทำเป็นดื่มน้ำแอปเปิ้ลและแครอต มีส่วนผสมที่ต้องเตรียม ประกอบด้วย...
 •แอปเปิ้ลเขียว 1 ถ้วย
 •แครอต 1 ถ้วย
 •น้ำแข็งป่น 1 ถ้วย
ลดไข้ด้วยแอปเปิ้ล
ขั้นตอนในการทำ ให้ล้างทำความสะอาดแอปเปิ้ลเขียวและแครอต จากนั้นขูดแครอตเป็นเส้นๆ ส่วนแอปเปิ้ลเขียวหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาดเล็ก ได้แล้วนำส่วนผสมไปสกัดพร้อมกันด้วยเครื่องสกัดน้ำผักและผลไม้ เสร็จแล้วเติมน้ำแข็งป่นช่วยเพิ่มรสชาติ และควรดื่มทันที.

ทีมเดลินิวส์ออนไลน์ takecareDD@gmail.com

ขอบคุณสำหรับข้อมูล สาระน่ารู้ เคล็ดลับสุขภาพ และ ข่าวดีๆที่ร่วมสร้างสรรค์สังคม และการศึกษาไทย เดลินิวส์ออนไลน์

วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ยุงชอบกัดคนมีกลิ่นตัว

ยุงชอบกัดคนมีกลิ่นตัว

ยุงชอบกัดคนมีกลิ่นตัว
         นั่งอยู่หลายคนแต่ทำไมยุงรุมโซม!! กัดเฉพาะบางคน ข้อสงสัยนี้กลายเป็นประเด็นที่มีการพูดถึงกันมาก บางก็ว่าชอบกัดผู้หญิง บางก็ว่าชอบกัดผู้ชาย ในที่สุดก็ได้มีการวิจัยจนได้ข้อสรุปว่า ยุงชอบกัดคนที่เหงื่อออกมาก!! ซึ่งทำให้กลิ่นตัวเปรี้ยว โดยยุงสามารถได้กลิ่นดังกล่าวไกลถึง 30 เมตร
           
         นอกจากนี้ ยุงยังมักจะบินไปกัดคนที่ปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการเผาผลาญของร่างกายออกมามาก ซึ่งมักจะเป็นคนที่หายใจแรง คนตัวใหญ่ รวมถึงคนท้อง ขณะที่คนตัวอุ่นๆ และตัวร้อน ส่งผลให้อุณหภูมิบริเวณผิวหนังสูง ก็เป็นปัจจัยดึงดูดยุงได้เช่นกัน
          
        ส่วนสาเหตุที่ยุงกัดแล้วคัน เนื่องจากระหว่างที่ยุงแทงปากลงที่ผิวและดูดเลือดนั้น ยุงจะปล่อยของเหลวที่ทำปฏิกิริยาป้องกันการแข็งตัวของเลือดออกมาเพื่อให้ดูด เลือดได้ง่าย ของเหลวหรือที่คนมักเรียก น้ำลายยุงนั้นจะทำให้บางคนเกิดอาการแพ้จึงรู้สึกคันผิวบริเวณที่ถูกกัดเป็นตุ่ม บวม และแดง

1. ยุงชอบพื้นผิวสีเข้มหรือดำมากกว่าสีขาว คนตัวดำจะถูกยุงกัดมากกว่า
2. ยุงสามารถตรวจจับความร้อนได้
3. ยุงสามารถจับกลิ่นกายโดยเฉพาะคนมีเหงื่อเยอะ (กลิ่นเหม็นเปรี้ยว)

          ไปอาบน้ำ เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด!! ถ้าอาบน้ำแล้วยุงยังตอมอยู่ก็หาเสื้อหนาๆที่ปิดมิดชิดมาใส่ หรือทาโลชั่นกันยุง หรือหาที่จุดกันยุ่ง ส่วนบางคนที่ทุกยุงกันแล้วคันและมีอาการเป็นแผลบวมแดง ให้รีบล้างน้ำและถูสบู่บริเวณที่ถูกกัด แล้วใช้ผ้าเย็นหรือเจลเย็นประคบลดบวมและรอยแดง หากยังคันให้ใช้วิธีลูบเบาๆ หลีกเลี่ยงการเกา เพราะสิ่งสกปรกในเล็บอาจทำให้ติดเชื้อแบคทีเรียกลายเป็นแผลอักเสบ

1. มีลมพิษขึ้นที่ส่วนอื่นของร่างกายผิวหนังแดงและคันตามตัว
2. หนังตาและปากบวม
3. แน่นหน้าอก เสียงแหบ
4. หัวใจเต้นผิดปกติ
5. กระสับการส่าย สับสน
6. ไอ สำลักอาหาร

ข้อมูลจาก http://classified69.wordpress.com

ยุงชอบกัดคนมีกลิ่นตัว

วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

สิ่งที่ผู้หญิงและสาว สาว ควรรู้

สิ่งที่ผู้หญิงและสาว สาว ควรรู้


1. กินหวานมากทำให้ผิวเหี่ยว จริงหรือ?

จริง! เมื่อร่างกายมีน้ำตาลอยู่ในกระแสเลือดมากเกินไป มันจะไปเกาะติดกับเส้นใยโปรตีนที่อยู่ระหว่างเซลล์ผิว ทำให้เกิดภาวะผิวเครียด นำไปสู่อาการแก่ก่อนวัย ผิวหยาบกร้าน และเหี่ยวย่นในที่สุด

2. คนผิวแห้งมีโอกาสเกิดริ้วรอยกว่าคนผิวมัน จริงหรือ?

จริง! เพราะคนผิวแห้งขาดซีบัม หรือสารไขมัน กลไกปกป้องตนเองของผิวหนังทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร คนผิวแห้งควรดูแลทาครีมบำรุงเพื่อความชุ่มชื่นแก่ผิว

3. เอาน้ำแข็งถูหน้า ก่อนนอนจะทำให้หายมันได้ จริงหรือ?

ไม่จริง! แก้ปัญหาหน้ามันให้ใช้น้ำเมือกว่านหางจระเข้ทาให้ทั่วใบหน้า ไม่ต้องล้างออก น้ำเมือกจะแห้งไปภายใน 5-10 นาที ทำก่อนนอน หน้าก็หายมัน

4. สวมเสื้อผ้าหนาๆ ให้เหงื่อออกเยอะทำให้ผอมเร็ว จริงหรือ?

ไม่จริง! เหงื่อออกเยอะคือ ภาวะร่างกายโดนความร้อนแล้วระบายออกมา ไม่ใช่การเผาผลาญไขมัน พอเราดื่มน้ำเข้าไป น้ำหนักก็เท่าเดิม

5. การยืนเอาปลายนิ้วมือแตะปลายนิ้วเท้าจะทำให้ ผิวหน้าดูสดใส จริงหรือ?

จริง การยืนเอาปลายนิ้วมือแตะปลายนิ้วเท้า ก้มตัวต่ำๆ ค้างไว้นับ 1-30 แล้วค่อยๆ ยืนขึ้นจะทำให้โลหิตบริเวณหนังศีรษะ และใบหน้าหมุนเวียนดียิ่งขึ้น ส่งผลกระทบให้ผิวหน้าดูสดใส

6. การฝึกกลั้นหายใจ ชะลอหน้าแก่ก่อนวัยได้ จริงหรือ?

จริง การหายใจออกทางปากอย่างช้าๆ จนสุดลม แล้วหายใจเข้าทางจมูกอย่างช้าๆ ให้เต็มปอด กลั้นไว้ระยะหนึ่ง แล้วจึงหายใจออกอย่างช้าๆ ทำแบบนี้วันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 20 นาที จะช่วยชะลอผิวแก่ก่อนวัยและรอยคล้ำได้

7. การร้องไห้ช่วยลดความอ้วนได้ จริงหรือ?

ไม่จริง! หัวเราะต่างหากที่ช่วยเผาผลาญแคลอรีให้หมดไปได้ดีกว่าอยู่เฉยๆ ถึง 20% ถ้าได้หัวเราะวันละสัก 10-15 นาที จะช่วยเผาผลาญพลังงานมาก ถึง 50 แคลอรี

8. ใส่กระโปรงสั้นในห้องแอร์เป็นประจำ ทำให้ขาใหญ่ จริงหรือ?

จริง! เพราะช่วงขาส่วนที่อยู่นอกกระโปรงจะเกิดการสะสมไขมันเป็นพิเศษให้เข้ากับ สภาพอากาศ เมื่อผิวหนังเจอความหนาวเย็น ทำให้เกิดเซลลูไลท์

สิ่งที่ผู้หญิงและสาว สาว ควรรู้


ข้อมูลจาก : classified69

สุดยอดยาสีฟัน ยาสีฟันกำจัดรอยขีดข่วนบนซีดี

นอกจากยาสีฟันจะทำให้ฟันสะอาดสดใสแล้ว  ยาสีฟันยังใช้งานได้อย่างวิเศษกับของอย่างอื่นที่ไม่ใช่ฟันด้วยล่ะ  และนี่คือการใช้ยาสีฟันแบบสีขาว (WHITENING) กับสิ่งของที่อยู่รอบตัวคุณ

สุดยอดยาสีฟัน ยาสีฟันกำจัดรอยขีดข่วนบนซีดี

1. บรรเทาอาการระคายเคืองจากแมลงกัดต่อยหรือแผลพุพอง ทายาสีฟันลงไปบริเวณที่ถูกแมลงกัดต่อยโดยตรง มันจะบรรเทาอาการคันและลดความบวมลงได้ ส่วนแผลพุพองยาสีฟันจะทำให้แผลแห้งและหายเร็วขึ้น โดยควรทาทิ้งไว้ข้ามคืนเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด

2. บรรเทาแผลไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวก สำหรับแผลเล็กน้อยที่ไม่มีรอยเปิด ยาสีฟันจะให้ความเย็นที่ช่วยบรรเทาอาการได้ โดยต้องทาลงไปทันทีหลังเกิดรอยแผล

3. กำจัดสิว อยากให้สิวหายเร็วขึ้นงั้นหรือ? ลองทายาสีฟันลงบนสิวแล้วทิ้งไว้ข้ามคืน แล้วล้างออกในตอนเช้าสิ สิวจะยุบลงและหายเร็วขึ้น

4. ทำความสะอาดเล็บ ทั้งเล็บและฟันมีส่วนประกอบของกระดูกเหมือนกัน ยาสีฟันจึงดีกับเล็บเช่นกันเพราะฉะนั้นอย่าลืมใช้แปรงและยาสีฟันขัดเล็บเป็นประจำ เพื่อช่วยให้เล็บสะอาดเป็นเงางาม และแข็งแรงขึ้น

5. ทำให้ผมอยู่ทรง ยาสีฟันแบบเจลมีส่วนผสมของโพลีเมอร์ที่ละลายน้ำ ซึ่งเป็นส่วนผสมแบบเดียวกับที่เจลแต่งผมส่วนใหญ่ใช้ ฉะนั้นถ้าคุณมองหาอะไรที่จะสร้างสรรค์ผมซึ่งต้องการความอยู่ตัวแบบสุด ๆ แต่เจลแต่งผมเกิดขาดมือ ลองใช้ยาสีฟันแบบเจลแทนก็ได้

6. กำจัดกลิ่นเหม็น ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นกระเทียม หัวหอม ปลา หรืออาหารกลิ่นแรงอื่น ๆ ที่ติดอยู่บนมือ ลองใช้ยาสีฟันถูมือ มันจะช่วยกำจัดกลิ่นพวกนี้ได้

7. กำจัดรอยเปื้อน รอยเปื้อนที่กำจัดยากบนเสื้อผ้าหรือพรม ยาสีฟันสามารถช่วยได้สำหรับเสื้อผ้าทายาสีฟันลงบนรอยเปื้อนโดยตรงและขยี้เบา ๆ จนกระทั่งรอยเปื้อนหายไป แล้วซักตามปกติ (แต่ควรระวัง ถ้าใช้ยาสีฟันแบบไวเทนนิ่งบนผ้าสีอาจทำให้สีผ้าซีดลงได้) สำหรับรอยเปื้อนบนพรมทายาสีฟันลงบนรอยเปื้อน ใช้แปรงขัดจนรอยเปื้อนจางลง แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

8. ชุบชีวิตรองเท้าเก่า ทำความสะอาดรองเท้า ที่วิ่งสกปรกมอมแมมแต่ซักน้ำไม่ได้ ด้วยการทายาสีฟันลงบนรอยเปื้อนแล้วขัดเบา ๆ จากนั้นเช็ดให้สะอาด

9. กำจัดรอยสีเทียนบนผนัง ใช้ผ้าชุบน้ำพอชื้น ๆ กับยาสีฟันขัดเบา ๆ บนรอยเปื้อน

10. ทำความสะอาดเครื่องประดับเงิน ทายาสีฟันลงบนเครื่องประดับเงิน แล้วทิ้งไว้ข้ามคืน จากนั้นใช้ผ้าสะอาด ๆ เช็ดออกในตอนเช้า ส่วนเครื่องประดับที่เป็นเพชร ก็สามารถใช้แปรงนุ่ม ๆ ยาสีฟันเล็กน้อย และน้ำขัดเบา ๆ ให้แวววาวดังเก่าได้ แต่อย่าใช้กับมุกเพราะจะทำให้เคลือบผิวเสียหายได้

11. กำจัดรอยขีดข่วนบนซีดี ผลดีกับรอยขีดข่วนตื้น ๆ และรอยเปื้อนทั่วไปแค่ทายาสีฟันบาง ๆ ลงบนแผ่นซีดีถูเบา ๆ แล้วเช็ดด้วยน้ำให้สะอาด

12. ทำความสะอาดคีย์เปียโน น้ำมันบนผิวหนังอาจติดอยู่บนคีย์เปียโนทำให้มีฝุ่นเกาะติดและเกิดความสกปรกขึ้นได้ ให้ทำความสะอาดมันด้วยผ้าที่ปราศจากขุยชุบน้ำพอชื้น ๆ แตะยาสีฟันเล็กน้อยจากนั้นเช็ดซ้ำด้วยผ้าสะอาด ๆ อีกผืน

13. กำจัดกลิ่นขวดนมเด็ก ถ้าขวดนมเริ่มมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวของนมบูด ลองใช้ยาสีฟันทำความสะอาดคราบตกค้างและกำจัดกลิ่น แต่ต้องล้างน้ำสะอาดให้หมดจดจริง ๆ ก่อนใช้

14. กำจัดรอยไหม้บนหน้าเตารีด ซิลิก้าในยาสีฟันสามารถช่วยกำจัดคราบดำ คราบไหม้ พวกนั้นได้

15. คืนความใสให้เลนส์ แว่นตาสำหรับว่ายน้ำหรือดำน้ำอาจขุ่นมัวได้เมื่อใช้ไปนาน ๆ  ก่อนจะซื้ออันใหม่ลองทายาสีฟันเล็กน้อย ลงบนกระจกแว่นถูให้ทั่วแล้วล้างให้สะอาด แต่อย่าขัดแรงเกินไป เนื่องจากส่วนผสมที่มีฤทธิ์ในการขัดสีในยาสีฟันอาจทำให้เลนส์เป็นรอยได้

สุดยอดยาสีฟัน ยาสีฟันกำจัดรอยขีดข่วนบนซีดี

ข้อมูลจาก : classified69