วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

การทำงานของโสมแดง

รับประทานเป็นเวลานานเท่าใด การทำงานของโสมแดงจึงจะแสดงผล?

ตอบ: คำ ตอบนี้ขึ้นอยู่กับอาการและชนิดของโรค เช่น ถ้าเป็นแค่แก้อาการอ่อนเพลีย หลังรับประทาน 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง อาการก็จะหายไป กรณีที่มีอาการของโรคความดันโลหิต หลังรับประทาน 15 นาที ความดันก็จะลดลง และกลับไปเหมือนเดิมเมื่อผ่านไป 2 ชั่วโมงผู้ป่วยโรคโลหิตจาง หลังรับประทานโสม 1 เดือนก็จะเห็นผลดีขึ้น

สำหรับ ผู้ป่วยโรคมะเร็งและผู้ชรา ที่ต้องรับประทานโสมจำนวนมาก พละกำลังและสีเลือดบนใบหน้าจะดูดีขึ้นเป็นชั่วคราว อาการปวดรุนแรงของผู้ป่วยมะเร็งจะบรรเทาลงหลังรับประทานโสมในวันต่อมา

สำหรับระยะเวลาของโรคยิ่งนานเท่าใด เวลาที่บำบัดด้วยโสมก็ยิ่งต้องใช้เวลานานเท่านั้น เช่นโรคเส้นเลือดแข็งตัวที่มีอายุของโรค 5-10 ปี ใช้โสมบำบัดเพียง 1 - 2 เดือน ผลของการรักษาจะยังไม่เห็นแน่นอน แต่หลังจากบำบัด 4-5 เดือนหรือครึ่งปีขึ้นไป ก็จะค่อยๆเห็นสรรพคุณรักษาของมัน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนที่แตกต่างกัน บางคนก็เห็นผลในเพียงเวลาสั้นๆ บางคนก็ต้องบำบัดเป็นเวลานานเป็นปี ไม่อาจระบุเวลาที่แน่นอนได้ นั่นเป็นเพราะว่าระบบต่างๆในร่างกายทำงานเกี่ยวข้องกัน ระบบหมุนเวียน ระบบภูมิต้านทาน ระบบเผาผลาญ ระบบหลั่งฮอร์โมน ระบบประสาท และระบบย่อยอาหาร ต้องทำงานประสานกันอย่างสมดุล เมื่อระบบใดระบบหนึ่งเกิดขัดข้องก็จะไปขัดขวางการทำงานของระบบอื่นๆด้วย จึงทำให้ระยะเวลาบำบัดต้องยาวนานออกไป เพื่อปรับทุกส่วนให้กลับมาสมดุลอีกครั้ง แต่ถ้าสาเหตุของโรคมาจากนิสัยประจำวันที่ไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น ชอบรับประทานของมันๆ สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า เมื่อใช้โสมบำบัดและปรับเปลี่ยนนิสัยการกินประจำวัน ก็จะเห็นผลรักษาได้อย่างรวดเร็ว
การทำงานของโสมแดง | ประโยชน์ของโสมแดง

โสมแดงช่วยผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือน

โสมแดงช่วยผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือนได้อย่างไร?

ตอบ: เมื่อ ผู้หญิงอายุประมาณ 40-45 ปี การหลั่งฮอร์โมนเพศในร่างกายจะเปลี่ยนไป ทำให้เกิดอาการผิดปกติต่างๆของร่างกาย เช่น หน้าแดงก่ำ เวียนหัว ตาพร่ามัว มือและเท้าร้อนวูบวาบ ตื่นเต้นง่าย เหงื่อกาฬ หูอื้อ ความดันโลหิตไม่คงที่ หวาดระแวง ซึมเศร้า ความจำถดถอย สมาธิสั้น และอ่อนเพลียง่าย

สาเหตุหลัก ของอาการต่างๆเกิดจาก เมื่อผู้หญิงหมดประจำเดือน การหลั่งฮอร์โมนเพศของร่างกายจะผิดปกติ ฮอร์โมนในร่างกายมี 2 ประเภท คือ ฮอร์โมนเพศชายและฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งไม่ว่าเพศใดก็จะมีฮอร์โมนทั้ง 2 ชนิดนี้อยู่ด้วยในร่างกาย แต่ฮอร์โมนหญิงในเพศชาย มักจะถูกทำลายโดยตับ ดังนั้น ฮอร์โมนเพศชายจะมีความทนทานที่มากกว่า

เมื่อหมดประจำเดือน การหลั่งของฮอร์โมนเพศหญิงจะลดลง ทำให้สรีระของผู้หญิงยิ่งมีแนวโน้มใกล้เคียงกับผู้ชายมากขึ้น เมื่อสรีระเปลี่ยนไปอย่างฉับพลันทำให้ทั้งทางด้านกายและใจปรับตัวไม่ทัน ทำให้การทำงานของระบบประสาทแปรปรวน และแสดงออกมาในรูปแบบของอาการต่างๆอย่างที่กล่าวมา

จากการวิจัยของนัก วิชาการมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่นที่สำรวจจากผู้หญิงวัยหมด ประจำเดือนทั่วประเทศ และทำการวิจัยสรรพคุณของโสมที่ช่วยระงับและบรรเทาอาการต่างๆของวัยหมดประจำ เดือนพบว่า โสมมี ประสิทธิภาพในการลดอาการ อาทิ ปวดหัว เวียนหัว ปวดเอว กล้ามเนื้อและข้อต่อแข็ง อ่อนเพลีย หายใจขัด ตาพร่า มือและเท้าเย็นได้ดี ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนและคนที่มีอาการดังกล่าว เมื่อรับประทานโสมก็จะมีอาการดีขึ้น

โสมแดงช่วยผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือน | ประโยชน์ของโสมแดง

วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

โรคเบาหวานรับประทานโสมแดงกึมซานได้หรือไม่?

โรคเบาหวานรับประทานโสมแดงกึมซานได้หรือไม่?
ตอบ: รูปแบบของโรคเบาหวานมี 2 แบบ

ชนิดที่ 1 เป็น โรคเบาหวานชนิดที่เป็นในผู้เยาว์เกิดจากเซลล์ในตับอ่อนถูกทำลายจนไม่อาจผลิต อินซูลินได้ ทำให้น้ำตาลในเลือดสูง ลักษณะเฉพาะอยู่ที่น้ำตาลในน้ำปัสสาวะจะมีมาก ผู้ป่วยชนิดนี้ไม่อาจบำบัดโรคได้ด้วยโสม

ชนิดที่ 2 เป็นโรคเบาหวาน ที่เป็นในผู้ใหญ่น้ำตาลในเลือดจะไม่สูงเหมือนชนิดแรก แต่ก็จะมีน้ำตาลสูงในน้ำปัสสาวะเช่นกัน โรคเบาหวานชนิดนี้เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป สาเหตุเพราะเซลล์ตับอ่อนถูกทำลายจนทำหน้าที่ตามปกติลดลง โรค เบาหวานชนิดนี้ รับประทานโสมจะทำให้น้ำตาลในเลือดลดอย่างรวดเร็ว แต่น้ำตาลในน้ำปัสสาวะยังคงเดิม แต่ถ้ารับประทานโสมอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง ก็จะทำให้น้ำตาลในน้ำปัสสาวะค่อยๆลดลงได้เช่นกัน

โสมมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการของโรคเบาหวานได้อย่างมีผล เช่น อาการคอแห้ง อ่อนเพลีย ฯลฯ ก็จะหมดไปหลังรับประทานโสมเพียงวันเดียว โดยเฉพาะโสมแดง จะมีส่วนประกอบที่ช่วยรักษาโรคเบาหวาน มะเร็ง และเส้นเลือดแข็งตัวได้ดีกว่าโสมชนิดอื่นๆ

โสมแดงกึมซานช่วยรักษาโรคมะเร็งได้หรือไม่?

โสมแดงกึมซานช่วยรักษาโรคมะเร็งได้หรือไม่?

ตอบ: โรค มะเร็งยังเป็นโรคที่วงการแพทย์พยายามที่จะศึกษาอยู่ และยังไม่สามารถหาวิธีรักษาและกำจัดมะเร็งให้หมดจากโลกนี้ได้ แม้โสมซึ่งเป็นราชาแห่งมวลสมุนไพรก็ตาม ก็ไม่สามารถสกัดกั้นโอกาสที่จะทำให้เกิดมะเร็ง และก็ยังไม่สามารถรักษาผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งให้หายจากโรคนี้ได้ แต่โสมก็ช่วยในการป้องกันมิให้เกิดโรคนี้ได้ส่วนหนึ่ง และยังช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้อย่างได้ผล

จากข้อมูลศึกษาพบว่า สาเหตุของการเกิดมะเร็งเกิดจากเซลล์ในร่างกายถูกกระตุ้นจากปัจจัยบางอย่าง อาทิ สารเคมี แสงแดด สารนิโคตินในบุหรี่ ทำให้เซลล์เปลี่ยนไปอยู่ในสภาพหยุดนิ่งไม่ทำงานตามปกติ และกลายไปเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด

คำถามที่ว่า โสมจะมีผลต่อการรักษาโรคได้อย่างไร? เรา ตอบได้จากข้อมูลที่ได้จากการทดลองของนักวิชาการซึ่งพบว่า เซลล์ที่อยู่ในสภาพหยุดนิ่ง เมื่อเราใส่แบบพันธุ์วงศ์ (gene) ของโสมลงไปจะทำให้เซลล์แปรสภาพกลับกลายเป็นเซลล์ปกติอีกครั้ง แต่นั่นก็เป็นแค่การทดลองที่ทำในหลอดทดลอง แต่มันจะเกิดผลได้จริงในร่างกายคนหรือไม่นั้น ก็ยังคงต้องรอการพิสูจน์ต่อไป แต่อย่างน้อยก็อาจทำให้เซลล์หยุดนิ่งดังกล่าวไม่กลายสภาพเป็นเซลล์มะเร็งต่อ ไป และอาจหยุดการแปรสภาพอยู่แค่ในขั้นนี้ก็ได้ อย่างไรก็ตาม นั่นก็เป็นแค่ข้อสันนิษฐานของนักวิชาการ ความจริงเป็นอย่างไรต้องรอหลักฐานที่จะมายืนยันให้แน่ชัดยกเว้นมะเร็งปอด

สาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งเสียชีวิต มักจะเป็นอาการเลือดคั่ง เพราะถ้าหากว่าเซลล์มะเร็งจะหยุดอยู่เฉพาะที่ก็คงไม่ถึงขั้นเป็นอันตรายต่อ ชีวิต แต่เมื่อใดที่มันลุกลามกระจายไปส่วนต่างๆของร่างกาย เมื่อนั้นก็จะเห็นฤทธิ์ร้ายของมัน เพราะว่าการลุกลามเพียงเล็กน้อยของเซลล์มะเร็งก็จะทำให้เกิดเลือดคั่งและไป อุดตันตามเส้นเลือดขึ้นได้ ทำให้ถึงแก่ชีวิต

แต่ในเมื่อโสมมีสรรพคุณช่วยสลาย อาการเลือดคั่งได้ จึงเป็นธรรมดาที่จะช่วยต่ออายุให้กับผู้ป่วยมะเร็งได้นอกจากนี้โสมยังช่วย ระงับความเจ็บปวดรุนแรงที่ผู้ป่วยมะเร็งขั้นสุดท้ายต้องประสบให้ทุเลาลงได้
โดยทั่วไป ผู้ป่วยมะเร็งจะมีระบบหมุนเวียนของโลหิตไม่ดี และมีภูมิต้านทานโรคต่ำ ดังนั้น จึงทำให้เสียชีวิตได้ง่ายภายในเวลาอันรวดเร็ว หลังจากที่อาการของโรคไม่ได้รับการดูแลรักษาสุขภาพอย่างดี โสมจะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดของผู้ป่วยมะเร็งดีขึ้น ดังนั้นเมื่อ ผู้ป่วยมะเร็งขั้นสุดท้ายที่หน้าตาหมองคล้ำเพราะตับแข็งตัวและมีอาการผมร่วง ได้รับประทานโสม 30 กรัมก็สามารถที่จะกลับไปดูมีสีเลือดและแจ่มใสขึ้นได้

ผู้ป่วยสมองอัมพาตใช้โสมแดงกึมซานได้หรือไม่?

ผู้ป่วยสมองอัมพาตใช้โสมแดงกึมซานได้หรือไม่?

ตอบ: สาเหตุ ของสมองอัมพาตมี 2 ชนิด ชนิดแรก เกิดจากเส้นเลือดฝอยในสมองแตก เมื่อเลือดไหลออกมา พลาสมาในเลือดก็จะทำให้เลือดแข็งตัวและคั่งอยู่ในสมอง ทำให้เซลล์สมองขาดออกซิเจนและหยุดทำงาน เมื่อเส้นเลือดแตกแล้ว ก็ไม่อาจกลับสู่สภาพเดิมได้

ดังนั้น การรักษาจึงเป็นไปได้ยาก แต่ โสมจะป้องกันการแข็งตัวของเลือดที่เกิดจากพลาสมาได้ และยังช่วยละลายเลือดคั่ง ดังนั้นโสมจึงช่วยป้องกันและรักษาเส้นเลือดแตกในสมองได้อย่างมีประสิทธิผล

สำหรับอาการอัมพาตที่เกิดจากเลือดที่คั่งในสมองสารไขมันที่อยู่ใน เลือดคั่งหรือเศษเซลล์ที่ลอกมาจากเส้นเลือดที่แตก ก็จะไปอุดตันตามเส้นเลือดต่างๆ ในสมอง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากอาการชักกระตุกที่เกิดจากสูบบุหรี่จัด หรือหลังผ่าตัด โดยเฉพาะการทำลายที่เกิดจากการกระแทกอย่างฉับพลันที่เกิดจากอุบัติเหตุ นอกเสียจากว่าการผ่าตัดจะประสบความสำเร็จ ไม่เช่นนั้นส่วนมากก็จะเสียชีวิตเพราะเลือดคั่งในสมอง เป็นที่น่ายินดีว่า สารซาโปนินในโสม มีสรรพคุณช่วยสลายใยโปรตีนได้ จึงสามารถช่วยสลายเลือดคั่งที่อยู่ในสมองได้

ถึงแม้ว่าโสมจะมีผลในการป้องกันสมองอัมพาตได้ดี แต่ก็ต้องอาศัยการรับประทานที่ต่อเนื่องอย่างจริงจังจึงจะเห็นผลได้ เมื่อเรารับประทานอย่างสม่ำเสมอแล้วสุขภาพก็จะดีขึ้นตามที่คาดหวังได้ และจากข้อมูลพบว่าคนที่เคยล้มป่วยเพราะสมองอัมพาต หลังบำบัดด้วยโสมมีจำนวนไม่น้อยที่สามารถหายดีกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

โสมแดงกึมซานจะช่วยลดคอเลสเตอรอลจริงหรือไม่?

โสมแดงกึมซานจะช่วยลดคอเลสเตอรอลจริงหรือไม่?

ตอบ: หลังรับประทานโสมแล้ว ปริมาณคอเลสเตอรอลในร่างกายจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่จะมีคุณภาพที่ดีขึ้น

ค่าคอเลสเตอรอลในร่างกายหมายถึง ปริมาณคอเลสเตอรอลรวมที่มีอยู่ในเลือด ซึ่งรวมทั้งคอเลสเตอรอลดีและไม่ดีอยู่ด้วยกัน ชนิดแรกคือ HDL (คอเลสเตอรอลที่มีนิวคลีโอโปรตีนสูง) และชนิดหลังคือ LDL (คอเลสเตอรอลที่มีนิวคลีโอโปรตีนต่ำ)

แต่เมื่อเราเอ่ยถึงคอเลสเตอรอล ก็มักจะพูดถึงแต่ปริมาณรวม ดังนั้น เราจึงควรหันมาสนใจในอัตราส่วนของ HDL และ LDL มากกว่า

การตรวจสอบสุขภาพในปัจจุบัน ก็เริ่มมีการตรวจสอบ HDL และ LDL แยกออกจากกันแล้ว เมื่อรับประทานโสมแล้ว ปริมาณรวมของคอเลสเตอรอลจะไม่ลดลง แต่เมื่อตรวจสอบแยกส่วนแล้ว ก็จะพบว่าปริมาณของ HDL จะเพิ่มขึ้น

แต่ในการทดลองบางครั้ง HDL ก็ไม่ได้มีเพิ่มมากขึ้นแต่กลับพบว่าปริมาณของ LDL ได้ลดลง ดังนั้น โสมจึงมีสรรพคุณที่ลด LDL และเพิ่ม HDL ของร่างกายได้ดี

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ปริมาณรวมของคอเลสเตอรอลที่มีมากเกินหรือน้อยเกินไป ก็จะลดประสิทธิภาพการทำงานของตับ โสมจะช่วยปรับคุณภาพของตับให้ดีขึ้นและยังช่วยรักษาปริมาณคอเลสเตอรอลในร่าง กายให้อยู่ในระดับที่สมดุลได้

ความดันโลหิตต่ำ โสมจะช่วยเพิ่มความดันโลหิตหรือไม่?

ผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับความดันโลหิตต่ำ เมื่อรับประทานโสมจะช่วยเพิ่มความดันโลหิตหรือไม่?

ตอบ: คน ที่มีความดันโลหิตต่ำ การเต้นของหัวใจจะอ่อน ทำให้ไม่มีแรงเพียงพอที่จะสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงยังส่วนต่างๆของร่างกาย ความสามารถในการผลิตเม็ดเลือดแดงก็จะต่ำกว่าคนปกติ ทำให้เป็นโรคโลหิตจางได้ง่ายและเกิดอาการหนาวได้ง่ายเช่นกัน

ดังที่กล่าวไปแล้วว่า โสมมี สรรพคุณในการช่วยปรับสมดุลของความดันโลหิต ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับความดันโลหิตต่ำนั้น โสมจะช่วยปรับการหมุนเวียนของเลือดให้เป็นปกติ ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดและเสริมสร้างความแข็งแรงของหัวใจ ทำให้ระบบการสูบฉีดเลือดดีขึ้น ความดันโลหิตจึงเพิ่มขึ้น และร่างกายกลับสู่สภาพสมดุล

เมื่อคนที่มีความดันโลหิตต่ำได้รับประทานโสมอาการเริ่มแรกที่เห็น ได้ชัดคือ จะรู้สึกสบายตัวเมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เพราะคนที่มีความดันโลหิตต่ำ การหลั่งของฮอร์โมนที่ช่วยลดความเครียดจะมีน้อย ยิ่งอยู่ในสภาพที่นอนหลับสนิท การหลั่งฮอร์โมนก็จะยิ่งลดลง ดังนั้นจึงตื่นจากการหลับยาก แต่โสมจะช่วยให้การหลั่งฮอร์โมนลดความเครียดมีระดับเพิ่มขึ้น และลืมตาขึ้นมาก็จะไม่รู้สึกงัวเงียอยากนอนต่ออีก

ความดันโลหิตสูงรับประทานโสมได้หรือไม่

ความดันโลหิตสูงสามารถรับประทานโสมได้หรือไม่

ตอบ: สาเหตุ ที่ผู้ป่วยเกิดความดันโลหิตสูง มักจะเกิดจากเลือดคั่งเนื่องจากเส้นเลือดแดงแข็งตัวหรือผนังเส้นเลือดเป็น แผล แต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะไม่พบความผิดปกติในการทำงานของเส้นเลือดและกระแสเลือด ถ้าเราไม่ใส่ใจอาการดังกล่าวและปล่อยให้ลุกลามขยายต่อไป ก็อาจทำให้เกิดเส้นเลือดในสมองแตกได้เลือดคั่งจะไปอุดตันทุกเส้นเลือดจนทำ ให้สมองพิการ หัวใจพิการและหัวใจวายได้
โสมมีสรรพคุณ ที่จะช่วยป้องกันเส้นเลือดคั่งป้องกันการแข็งตัวของเส้นเลือดแดง ช่วยปรับการหมุนเวียนของเลือดจนทำให้ความดันโลหิตที่สูงขึ้นลดลงและยังช่วยสร้างคอเลสเตอรอลที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

ภายหลังรับประทานโสม 1 ชม. ห้ามทำกิจกรรมใดๆ ที่อาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นได้ อาทิ วิ่ง ตีเทนนิส ปีนบันได หรืออยู่ในที่ๆอากาศแออัด
นอกจากนี้ยังต้องหลีกเลี่ยงอาการโกรธ เศร้าโศก หรืออาการอื่นๆ ที่จัดเป็นการทำให้เกิดอารมณ์รุนแรงต่างๆ ควรรักษาจิตใจให้สงบนิ่ง หากิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายทำ เช่น ดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือหรือฟังดนตรีเบาๆ

จากการทดลองของโรงพยาบาลในญี่ปุ่น พบ ว่าโสมช่วยปรับสมดุลความดันโลหิตได้ คนที่รับประทานโสมเข้าไปจะเกิดความรู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับสนิท การรับประทานโสมอย่างต่อเนื่องภายในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จะส่งผลในการปรับความสมดุลของความดันโลหิตดำเนินต่อไป แม้ว่าจะหยุดรับประทานโสมไปแล้วซึ่งอาจจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ หรือนานก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าก่อนหน้าที่จะหยุดรับประทานโสมนั้น เราได้รับประทานอย่างต่อเนื่องและเป็นเวลาเท่าใดและความดันดังกล่าวได้ปรับ เปลี่ยนมาอยู่ภาวะที่พอเหมาะกับสภาพเงื่อนไขทางกายภาพของบุคคลผู้นั้นหรือ ยัง