ดื่มน้ำอย่างไรให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
"หากให้เลือกระหว่างอดน้ำกับอดอาหารหลายคนอาจจะเลือกไม่ถูกเพราะทราบดีว่าทั้งน้ำและอาหาร คือ ปัจจัยที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิต แต่โดยหลักวิทยาศาสตร์แล้ว ชีวิตคนปกติสามารถอดอาหารได้นานเกือบเดือน แต่หากขาดน้ำประมาณ 3-7 วันชีวิตนั้นมีอันต้องดับสูญอย่างแน่นอน"
เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะน้ำถือเป็นส่วนประกอบสำคัญของอวัยวะต่างๆ ทั้งเลือด กล้ามเนื้อ รวมไปถึงอวัยวะที่แข็ง เช่น เล็บ ฟัน กระดูก ซึ่งโดยภาพรวมแล้วในส่วนประกอบทั้งหมดของร่างกายมีน้ำเป็นองค์ประกอบ 3 ใน 4 หรือคิดเป็น 85 % ของร่างกายเลยทีเดียว
ถึงตรงนี้คงะเห็นแล้วว่า น้ำมีความสำคัญเพียงใด หรือเหตุใดร่างกายมนุษย์จึงขาดน้ำนานไม่ได้ เพราะนอกจากน้ำจะเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของร่างกายแล้ว หากมองในด้านสุขภาพการที่เราดื่มน้ำเข้าไปในร่างกาย น้ำยังไปช่วยในการชะล้างสิ่งสกปรกต่างๆ รวมไปถึงการเสริมความชุ่มชื้นให้กับผิวพรรณ ในหลักวิชาการเกี่ยวกับความสวยความงามจึงมีการกล่าวถึงอยู่เสมอว่าหากมีการดื่มน้ำที่พอเพียงกับความจำเป็นที่ต้องใช้เครื่องสำอางเพื่อบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นนั้นน้อยมาก ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ร่างกายของคนปกติจะต้อการน้ำวันละ 4,000 ซีซี หรือ 4 ลิตร เป็นอย่างน้อย
หากร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอจะเกิดอะไรขึ้น?
เรามาดูกันว่า เมื่อร่างกายมนุษย์ได้รับปริมาณน้ำที่ไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
1.หัวใจทำงานหนัก และมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ เหตุเพราะเมื่อร่างกายขาดน้ำเลือดจะข้นขึ้น ซึ่งจะทำให้การไหลเวียนของเลือดลำบาก ผลกระทบต่อไปคือ หัวใจต้องทำงานหนักเพิ่มมากขึ้น อันจะส่งผลให้อัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ และผลที่จะเห็นได้จากภายนอก คืออาการหน้ามืด อันเกิดจากเลือดสูบฉีดไปเลี้ยงสมองไม่พอเพียง
2.สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคไต ไม่ว่าจะเป็นไตวาย ไตพิการ ให้ลองสังเกตดูที่ปัสสาวะ หากวันไหนที่เรารู้สึกได้ว่า ภายใน 1 วันเราทานน้ำน้อยเกินไปปัสสาวะจะมีสีเหลืองเข้ม ภาวะเช่นนี้ส่งผลให้ไตต้องทำงานหนักกว่าปกติ และหากร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำอย่างต่อเนื่อง โอกาสที่ไตจะมีปัญหาก็มีสูงขึ้น
3.ท้องผูก ถ่ายอุจจาระไม่สะดวก
4.ผิวหนังหยาบ ไม่สดชื่นหรือสดใส ริมฝีปากแห้ง รวมไปถึงนัยน์ตาแห้ง อันเกิดจากการขาดน้ำไปหล่อเลี้ยง
ดื่มน้ำอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
อย่างที่กล่าวไปเบื้องต้นว่า ร่างกายของคนปกติจะต้องการน้ำวันละ 4,000 ซีซี หรือ 4 ลิตร เป็นอย่างน้อย แต่การจะดื่มน้ำเพื่อให้เพียวพอกับความต้องการของร่างกายเพียงครั้งเดียวคงเป็นไปไม่ได้ ภายใน 1 วัน จึงควรแบ่งการดื่มน้ำดังต่อไปนี้
ตอนเช้า อย่างน้อย 1 แก้ว (400 ซีซี)
ตอนสาย อย่างน้อย 2 แก้ว
ตอนบ่าย อย่างน้อย 3 แก้ว
ตอนเย็น อย่างน้อย 3 แก้ว
ก่อนเข้านอน ควรดื่ม 1 แก้ว
โดยการดื่มน้ำก่อนเข้านอนนั้น จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย กล่าวคือ ขณะนอนร่างกายจะพักผ่อนอย่างเต็มที่ น้ำที่ดื่มไปจะไปชำระของเสียในร่างกาย และจะถูกขับออกมา ทั้งการปัสสาวะและอุจจาระ นอกจากนี้แล้วการดื่มน้ำอุ่นก่อนนอน จะส่งผลให้หลับสบายได้อีกด้วย
หลักปฏิบัติ/พฤติกรรมในการดื่มน้ำ
-ไม่ควรทานอาหารพร้อมกับการดื่มน้ำสลับกัน
รวมไปถึงไม่ควรดื่มน้ำมากเกินไปทั้งก่อนและหลังทานอาหารในแต่ละมื้อ เพราะจะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจาง อันจะส่งผลให้กระบวนการย่อยอาหารที่รับประทานไปไม่เป็นปกติ
-การดื่มน้ำบ่อยๆ อาจส่งผลให้เกิดการปัสสาวะบ่อย โดยปัสสาวะครั้งแรกอาจมีสีเหลืองเข้มและมีกลิ่นแรงถือเป็นสิ่งปกติ ซึ่งจะพบเจอในช่วงเช้า
-การดื่มน้ำ ไม่จำเป็นต้องเร่งดื่มตามปริมาณที่ร่างกายต้องการเพียงแค่ครั้งเดียว ให้ดื่มตามความสะดวก
ที่กล่าวมาทั้งหมดลองนำไปปฏิบัติดู แล้วจะพบว่า เมื่อรับประทานน้ำได้ตามปริมาณความต้องการของร่างแล้วจะเกิดประโยชน์เพียงใค
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น